ทำไมต้องเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B

ข้อดีของแปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B เมื่อเทียบกับแปรงที่ใช้แบตเตอรี่หรือแปรงสีฟันธรรมดา

Share

ในยุคสมัยใหม่เช่นนี้ แม้แต่แปรงสีฟันก็ยังมีเทคโนโลยีที่พิเศษ ด้วยคุณสมบัติอย่างเช่นนาฬิกาจับเวลาในตัวและการตั้งความเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจที่แปรงสีฟันไฟฟ้าช่วยให้มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับแปรงสีฟันธรรมดา* อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีข้อกังขาว่าการซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าคุ้มค่าจริงหรือไม่

สงสัยหรือไม่ว่า แปรงสีฟันไฟฟ้าที่เห็นวางโชว์ในคลินิกหมอฟันใช้ดีกว่าแปรงธรรมดาจริงหรือไม่ แล้วแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ใช้ถ่านขนาด AA ล่ะเป็นอย่างไรบ้าง

แปรงแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติของแแปรงสีฟันไฟฟ้า

แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบชาร์จไฟได้ (หรือแปรงสีฟัน “พลังไฟฟ้า”) สามารถขจัดคราบจุลินทรีย์ได้เหนือกว่าแปรงสีฟันธรรมดาทั่วไป เนื่องจากหัวแปรงขยับทำความสะอาดด้วยตัวเอง หลายคนจึงพบว่าแปรงสีฟันไฟฟ้านั้นใช้งานง่ายกว่าแปรงสีฟันธรรมดาทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบันแปรงไฟฟ้ามีหลากหลายประเภทและคุณสมบัติให้เลือก จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาแปรงที่เหมาะกับสุขภาพช่องปากของคุณ

นอกจากนั้น เทคนิคการแปรงฟัน ความถี่และระยะเวลาที่คุณใช้ในการแปรงฟันก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าประเภทของแปรงสีฟันที่คุณใช้ จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขจัดคราบจุลินทรีย์ ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจให้แน่ชัดว่าแปรงประเภทใดเหมาะกับคุณและแตกต่างจากแปรงอื่น ๆ อย่างไรบ้าง

แปรงสีฟันไฟฟ้าทั้งสามประเภท

แปรงสีฟันไฟฟ้าวางจำหน่ายในท้องตลาดทั้งหมด3แบบ มีทั้งแบบที่ชาร์จไฟได้ (รวมถึงแบบใช้คลื่นโซนิค) แปรงสีฟันธรรมดา และแบบที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่

  • แปรงสีฟันไฟฟ้าที่ชาร์จไฟได้ แปรงสีฟันไฟฟ้าที่ชาร์จไฟได้หรือที่รู้จักกันว่าเป็น “แปรงสีฟันไฟฟ้า” คือชนิดที่ต้องเสียบชาร์จไฟกับเต้าเสียบติดผนัง ตัวแปรงยังคงใช้งานได้ในขณะที่ต้องเปลี่ยนหัวแปรงทุก ๆ สามเดือน แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบที่ชาร์จไฟได้จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ทำความสะอาด อย่างเช่น ระบบสั่นและหมุน (หัวแปรงขยับทำความสะอาดแบบ 3D) หรือเทคโนโลยีการใช้คลื่นโซนิค

  • แปรงสีฟันธรรมดาทั่วไป: หลายคนย่อมมีความคุ้นเคยกับแปรงสีฟันทั่วไป ด้ามจับพลาสติกและขนแปรงไนล่อนหลากหลายรูปทรงที่ออกแบบมาบนหัวแปรง และไม่ต้องมีแหล่งจ่ายพลังงาน

  • แปรงสีฟันพลังงานแบตเตอรี่: แปรงสีฟันที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มักจะถูกเรียกรวม ๆ ว่าเป็น “แปรงสีฟันไฟฟ้า” เพราะใช้พลังงานจากถ่านไฟฉายขนาด AA ถึงแม้จะมีรูปทรงที่ออกแบบคล้ายกับแปรงสีฟันธรรมดาทั่วไป แต่แปรงสีฟันไฟฟ้าจากแบตเตอรี่จะมีแรงสั่นมากกว่าในการเคลื่อนไหวเพื่อทำความสะอาดฟัน

ใช้งานง่าย

หัวแปรงสีฟันไฟฟ้าจะขยับไปมาเพื่อทำความสะอาดฟัน คุณแค่เลื่อนแปรงไปบริเวณตำแหน่งผิวฟัน วิธีนี้ทำให้การแปรงฟันง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่มีภาวะข้อต่ออักเสบหรือภาวะอื่นที่คล้ายคลึงกัน อาจพบว่าการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าช่วยลดอาการเจ็บปวด แปรงสีฟันไฟฟ้าช่วยให้เด็กๆแปรงฟันได้ดีขึ้นและต้องให้มั่นใจว่าเด็กมีอายุตามคำแนะนำที่เหมาะกับการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า

เปรียบเทียบเทคโนโลยีและคุณสมบัติต่าง ๆของแปรงสีฟัน

แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบชาร์จไฟได้: มีเทคโนโลยีและคุณสมบัติหลากหลาย บางรุ่นสามารถช่วยแก้นิสัยการแปรงฟันของคุณได้เลยทีเดียว และส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ช่วยให้สะดวกสบาย อย่างเช่น หัวแปรงหรือแท่นวางแปรงสีฟันไฟฟ้า ที่เก็บแปรงบนเคาน์เตอร์ห้องน้ำ และที่ชาร์จแปรงสีฟันสำหรับเดินทาง

  • โหมดการแปรงที่หลากหลาย เช่น โหมดแปรงแบบอ่อนโยน ช่วยขัดฟันขาวหรือการนวดเหงือก

  • ระบบเซ็นเซอร์แรงกดจะส่งสัญญาณเมื่อคุณแปรงฟันแรงเกินไป

  • นาฬิกาจับเวลาที่ช่วยจับเวลาว่าคุณแปรงฟันในแต่ละส่วนของช่องปากมานานมากน้อยเพียงใดแล้ว

  • การแจ้งเตือนระบบดิจิตอลให้เปลี่ยนหัวแปรง

  • เทคโนโลยีการสั่นและการหมุน หรือการใช้คลื่นโซนิค

  • หัวแปลงที่หลากหลายที่ใช้ได้กับแปรงทุกรุ่น คุณจึงเลือกรูปแบบหัวแปรงที่ชอบได้

แปรงสีฟันธรรมดาทั่วไป: ในขณะที่แปรงสีฟันธรรมดาทั่วไปไม่ได้มีข้อดีและคุณสมบัติใกล้เคียงกับแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบชาร์จไฟได้ การออกแบบขนแปรงและด้ามจับค่อนข้างจะมีความพิเศษ อย่างเช่น:

  • ขนแปรงแบบไขว้ ยาวเป็นพิเศษ และมีหลายระดับ

  • ปลายขนแปรงแหลมและมน

  • ขนแปรงหนา

  • ขนแปลงทรงกลมเพื่อประสิทธิภาพในการฟอกฟันขาว

  • ด้ามจับออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์พร้อมบริเวณมือจับพิเศษ

  • หัวแปรงที่เรียวปลายและปรับองศา

  • ระบบกระตุ้นเหงือก

  • แผ่นทำความสะอาดลิ้น

แปรงสีฟันพลังงานแบตเตอรี่: แม้ว่าจะมีคุณสมบัติที่คล้ายกับแปรงสีฟันธรรมดาทั่วไป แต่แปรงสีฟันประเภทนี้ยังมีการสั่นที่จะช่วยทำความสะอาด นอกเหนือจากการใช้งานทั่วไปเหมือนแปรงสีฟันธรรมดา รวมถึง:

  • แบตเตอรี่ขนาด AA ในตัวซึ่งถอดเปลี่ยนได้ในบางรุ่น

  • ปุ่ม ”On/Off” (เปิด/ปิด) หรือ “+/-“ บนตัวแปรง

  • หัวแปรงที่ขนแปรงตั้งตรงและมีบางส่วนที่ต่างกันออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้มีการกระแทกพร้อมกับการสั่น

เทคนิคการปรับรูปแบบการแปรง

เทคนิคการแปรงฟันจะต่างกันออกไปเมื่อใช้งานแปรงสีฟันคนละประเภทกัน ไม่ว่าคุณจะใช้แปรงสีฟันธรรมดาทั่วไปและแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบมีแบตเตอรี่ คุณก็จะต้องใช้วิธีการแปรงตามปกติ ด้วยการขยับแปรงไปข้างหน้าและถอยหลังตลอดแถวของฟันและแนวเหงือก แต่ที่แตกต่างก็คือ แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบชาร์จได้นั้น หัวแปรงจะขยับทำความสะอาดเอง คุณเพียงแต่เลื่อนตำแหน่งของแปรงไปเรื่อย ๆ ตามผิวฟันและเหงือกเท่านั้น เมื่อคุ้นเคยกับวิธีการใช้ หลายคนก็พบว่าวิธีนี้ทำให้การแปรงฟันง่ายขึ้น

ประโยชน์ของแปรงสีฟันไฟฟ้าที่แปรงสีฟันธรรมดาไม่มี

หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดกับแปรงสีฟันแบบธรรมดาคือ การรักษาระยะเวลาในการแปรงฟันให้ครบสองนาทีตามข้อแนะนำ หรือการแปรงฟันตามเทคนิคที่ทันตแพทย์แนะนำนั้นทำได้ยาก ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของการแปรงฟันลดลง แปรงสีฟันไฟฟ้าจาก Oral-B มีคุณสมบัตินาฬิกาจับเวลาสองนาที เพื่อให้มั่นใจได้ว่าฟันของคุณจะสะอาดอย่างที่ทันตแพทย์แนะนำ นาฬิกาจับเวลาจะแจ้งเตือนทุก 30 วินาทีให้คุณเปลี่ยนบริเวณการแปรงฟัน (สี่บริเวณ) ซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกจุดในช่องปากของคุณจะได้รับการเอาใจใส่เพื่อให้มีความสะอาดอย่างเหนือชั้น** และเพื่อปกป้องเหงือกของคุณระหว่างการแปรง แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B ซึ่งมีหัวแปรงเคลื่อนที่ในลักษณะสั่น-หมุน-ขึ้นลงและมีระบบเซ็นเซอร์ภายในตัว เพื่อแจ้งเตือนคุณว่าใช้แรงหนักไปขณะแปรงฟัน

โหมดอื่นๆ เช่น โหมดสะอาดล้ำลึก รักษาเหงือก ฟันขาว โหมดอ่อนโยน และทำความสะอาดลิ้น การตั้งค่าโหมดสะอาดล้ำลึก สามารถตั้งเวลาของนาฬิกาจับเวลาให้นานขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยให้ฟันสะอาดยิ่งขึ้น การตั้งค่ารักษาเหงือกเพื่อนวดและกระตุ้นเนื้อเยื่อเหงือก ตัวเลือกอ่อนโยนจะลดความเร็วการขยับของหัวแปรงเพื่อทำความสะอาดอย่างนุ่มนวล ซึ่งอาจเหมาะกับผู้ที่มีแผลหรือบริเวณที่ไวต่อความรู้สึกภายในช่องปาก ความเร็วของหัวแปรงจะเปลี่ยนไปเมื่อตั้งโหมดฟันขาวซึ่งจะช่วยขัดฟันของคุณ หากตั้งให้ทำความสะอาดลิ้นระบบจะเตือนให้คุณทำความสะอาดลิ้น เพื่อลมหายใจสดชื่น

เข้าใจถึงประโยชน์ของแปรงสีฟันไฟฟ้า

แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบชาร์จไฟได้ส่วนใหญ่จะมีราคาสูงกว่าแปรงที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่และแปรงสีฟันธรรมดาทั่วไป ข้อดีของแปรงเหล่านั้นคือ มีประโยชน์ต่อสุขภาพและคุณสมบัติหลากหลาย ซึ่งแปรงสีฟันธรรมดาทั่วไปมีราคาถูกกว่าและมักวางจำหน่ายแบบเป็นแพ็กมีหลายชิ้นหรือเป็นชิ้นเดี่ยว ๆ ส่วนแปรงสีฟันไฟฟ้าแบตเตอรี่ตามปกติจะแพงกว่าแปรงสีฟันธรรมดาเล็กน้อย

เมื่อมองประโยชน์รอบด้านที่ได้จากแปรงสีฟันไฟฟ้าซึ่งจะให้ภาพที่ชัดเจนของคุณค่าที่แปรงสีฟันไฟฟ้าจะให้กับคุณในระยะยาว สำหรับมือใหม่ แปรงสีฟันไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีหัวแปรงที่เปลี่ยนได้ เพื่อได้ประสบการณ์การทำความสะอาดที่เปลี่ยนไปตามความจำเป็นของสุขภาพช่องปาก

ปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาคือการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าช่วยให้ช่องปากคุณสุขภาพดีขึ้นเมื่อเทียบกับแปรงสีฟันธรรมดาทั่วไป* ความสะอาดอย่างเหนือชั้นแบบที่ราคาไม่เป็นอุปสรรค เพราะ Oral-B มีแปรงสีฟันไฟฟ้าที่คุ้มค่าคุ้มราคาให้เลือกหลายรุ่น เช่น Oral-B Pro 2 2000 คือ แปรงสีฟันไฟฟ้าในระดับเริ่มต้นที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับผู้ที่อยากทดลองปรับปรุงสุขภาพช่องปาก สามารถชาร์จไฟได้ ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อถ่านมาเปลี่ยนบ่อย ๆ

เมื่อจะทดลองใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า

เป็นที่เข้าใจกันดีว่าคนทั่วไปก็น่าจะอยากลองใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบชาร์จไฟได้ก่อนจะซื้อ คุณอาจจะลองพิจารณาตัวเลือกแปรงสีฟันรุ่นพื้น ๆ ในราคาที่จ่ายไหว เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองแปรงแบบให้พลังงาน แต่ต้องการทดสอบดูก่อนว่าใช้แล้วเป็นอย่างไร

หากต้องการฟันขาวยิ่งขึ้น ให้เลือกรุ่นที่มีโหมดฟันขาว ในขณะที่แปรงสีฟันไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีตัวเลือกวิธีการแปรงในตัว แต่แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B (อย่างเช่นรุ่น Smart Series 4000) ก้าวล้ำไปอีกขั้นโดยใช้เทคโนโลยี Bluetooth® เพื่อซิงค์ข้อมูลกับสมาร์ทโฟนของคุณ และให้การตอบสนองอุปนิสัยการแปรงฟันของคุณแบบเรียลไทม์ คุณสมบัติที่ล้ำสมัยของเรามีเฉพาะใน Oral-B Genius ระบบติดตามตำแหน่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ช่วยให้คุณไปยังทุกโซนของช่องปากคุณ เพื่อที่คุณจะไม่พลาดไม่ว่าจะบริเวณใด การเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะต่อสุขภาพของช่องปาก ช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น รวมถึงประสบการณ์การแปรงฟันที่สนุกกว่าเดิม